"ป้ายรถราง"ที่เหลืออยู่ในกรุงเทพ

สวัสดีครับ วันนี้ผมได้ไปเจอชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ของกรุงเทพชิ้นหนึ่ง ถ้าไม่สังเกตก็คงไม่เห็นแน่นั้นคือ ป้ายธง แดง-เขียว ที่มีดาวตรงกลาง มันคือจุดสับรางของ รถราง เวลารถวิ่งสวนกัน ต้องรอกันในสมัยนั้นใครจะไปพาหุรัตศาลหลักเมือง ก็ต้องนั่งรถรางนี่แหล่ะ แต่ในรูปจะเหลือแต่ธงสีแดงอันเดียวแล้วแรกเห็นก็รู้สึกว่าทำคือป้ายอะไรพอไปถามคนแก่แถวนั้นก็ได้คำตอบว่า "มันเหมือนป้ายรถเมล์แต่ใช้กับรถรางสมัยก่อนนั้น"...ผมเลยมาหาข้อมูลต่อครับ

รูปนี้ถ่ายตรงสี่แยกวัดตึก ตรงไปก็จะเป็นสะพานเหล็กเก่าครับ

รูปนี้ผมขอยืมมาจาก http://www.chinatownyaowarach.com/

บริษัทของคนเดนมาร์ก เป็นผู้ดำเนินกิจการรถรางรายที่ 3 ซึ่งได้พัฒนามาใช้ไฟฟ้าแทนม้าลาก (2รายก่อนหน้าใช้ม้าลากไม่ขอกล่าวถึงนะครับ) โดยขึงสายไฟเปลือยเหนือรางไปตลอด และมีสาแหรกเป็นแท่งเหล็กยาวติดบนหลังคารถขึ้นไปรับกระแสไฟฟ้ามาเข้าเครื่อง รถรางไฟฟ้าได้รับความนิยม และทำกำไรให้บริษัทมาก ในปี พ.ศ. 2448 เจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน จึงตั้งบริษัทรถรางแข่งกับฝรั่งบ้างในชื่อ บริษัท รถรางไทยทุน จำกัด ได้สัมปทาน 2 สาย คือ สายรอบเมือง และสายดุสิต วิ่งจากยศเส สะพานดำ เสาชิงช้า บางลำภู จนถึงสวนดุสิต ใช้รถแบบเดียวกัน แต่ทาสีแดง เพื่อให้แตกต่างจากของบริษัทฝรั่ง ซึ่งทาสีเหลือง แต่ต่อมาก็ต้องรวมกันเป็นบริษัทเดียว ทาสีเหลืองคาดแดง จนหมดสัมปทาน และได้เป็นของรัฐบาล ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2493 ต่อมาเมื่อกรุงเทพฯ เจริญขึ้น มีรถยนต์วิ่งกันขวักไขว่ รถราง ก็กลายเป็นเครื่องกีดขวางการจราจร ถูกยุบลงทีละสายสองสาย จนเลิกเด็ดขาดเมื่อวันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2511
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://allknowledges.tripod.com