LAO DAY 3 "ความซวยบังเกิด" ในวันที่ 1และ2 ที่ได้ไปดูต้นสักกันหลายที่ และมีการพูดคุยต่อรองราคากันระหว่าง นายกับทางเจ้าของต้นสักเป็นที่เรียบร้อย สรุปว่าได้ต้นสักตามเป้าหมาย และในเย็นวันนั้น ทางนายก็กลับไทยมาก่อน จะเหลือผม ทนาย และพ่อนาย ที่ต้องอยู่ต่อ ถึงตรงนี้แล้วผมเองก็เริ่มรู้ถึงชะตากรรมของตัวเองแล้วล่ะว่าต้องถูกทิ้งให้อยู่ทำงานต่อที่หลวงพระบางเป็นแน่ อย่างที่บอกล่ะครับว่าผมเองรู้สึกไม่อยากจะมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วยิ่งทำให้ความรู้สึกของผมแย่ลงไปอีก...(ผมคิดว่าการมาเที่ยว กับการมาทำงาน มันคนละความรู้สึกกันนะ) ถึงจะรู้สึกแย่แค่ไหน ผมเองก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคิดว่าคงเหลือแต่ขั้นตอนการ ตัด แปลรูป ขนส่งกลับไทย เท่านั้นคงไม่น่าใช้เวลานานมากนัก... เช้าวันที่ 3 ความซวยบังเกิด..!!! ระหว่างนั่งกินอาหารเช้าอยู่นั้น นายพงษ์ คนพื้นที่ ที่เป็นนายหน้าหาไม้สักมาให้ ก็มาพร้อมกับความซวย มาแจ้งว่า "เจ้าของต้นสักที่ติดต่อเอาไว้เมื่อวานหลายรายเกิดไม่ยอดขายต้นสักให้แล้ว"...!!! พอได้ยินเช่นนั้น "ผมนี้นั่งตาเป็นจุดเลย" ในหัวไม่อย่างจะคิดอะไรเลย (อย่างเดียวที่คิด

สวัสดีครับ วันนี้ผมได้ไปเจอชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ของกรุงเทพชิ้นหนึ่ง ถ้าไม่สังเกตก็คงไม่เห็นแน่นั้นคือ ป้ายธง แดง-เขียว ที่มีดาวตรงกลาง มันคือจุดสับรางของ รถราง เวลารถวิ่งสวนกัน ต้องรอกันในสมัยนั้นใครจะไปพาหุรัตศาลหลักเมือง ก็ต้องนั่งรถรางนี่แหล่ะ แต่ในรูปจะเหลือแต่ธงสีแดงอันเดียวแล้วแรกเห็นก็รู้สึกว่าทำคือป้ายอะไรพอไปถามคนแก่แถวนั้นก็ได้คำตอบว่า "มันเหมือนป้ายรถเมล์แต่ใช้กับรถรางสมัยก่อนนั้น"...ผมเลยมาหาข้อมูลต่อครับ รูปนี้ถ่ายตรงสี่แยกวัดตึก ตรงไปก็จะเป็นสะพานเหล็กเก่าครับ รูปนี้ผมขอยืมมาจาก http://www.chinatownyaowarach.com/ บริษัทของคนเดนมาร์ก เป็นผู้ดำเนินกิจการรถรางรายที่ 3 ซึ่งได้พัฒนามาใช้ไฟฟ้าแทนม้าลาก (2รายก่อนหน้าใช้ม้าลากไม่ขอกล่าวถึงนะครับ) โดยขึงสายไฟเปลือยเหนือรางไปตลอด และมีสาแหรกเป็นแท่งเหล็กยาวติดบนหลังคารถขึ้นไปรับกระแสไฟฟ้ามาเข้าเครื่อง รถรางไฟฟ้าได้รับความนิยม และทำกำไรให้บริษัทมาก ในปี พ.ศ. 2448 เจ้านายและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน จึงตั้งบริษัทรถรางแข่งกับฝรั่งบ้างในชื่อ บริษัท รถรางไทยทุน จำกัด ได้สัมปทาน 2 สาย คือ สายรอบเมือง และสายดุส

Lao Day 2  08-2007 หลังจากสิ้นสุดวันแรกที่มาถึง ก็แยกย้ายกันไปห้องใครห้องมัน ผมกับทนายอยู่ห้องเดียวกัน...เช้าวันที่ 2 เริ่มด้วยกันมารวมตัวกันเพื่อกินอาหารเช้า และรอคนพื้นที่ชื่อ พงษ์ มารับไปดูต้นไม้สัก.. ผมไม่แน่ใจว่าทางนายเขารู้จักพงษ์ได้อย่างไร ก็ข้ามไปเลยล่ะกัน ฮาฮาฮา โดยการทางของพงษ์ที่พาไปดูต้นส้กที่ต่างๆ ผมเองก็จำชื่อสถานที่ไม่ได้แล้ว(นานเกิน) สถานที่แรก ต้นสักอายุมากกว่า 60ปี ต้นตรงใหญ่สวยแต่เจ้าของขายแพงมาก   สถานที่ 2 เรียกว่าเข้าป่าไปดูกันเลย..ร้อนมากกกก สถานที่ 3 ผมไม่ได้ไปด้วยอ่ะ...ลงเรือไปดูกันอีกฟากหนึ่ง ที่เห็นน้ำสีเหลืองๆนั้น คือแม่น้ำโขงครับ สถานที่ 4 เข้าป่ากันอีกแล้ว..ชี้นิ้วเลือกต้นสักกันอย่างกับซื้อของในตลาดเลย... ปิดท้ายด้วยไปติดต่อโรงเลื่อยเพื่อแปลรูป  ไม่ใช่หมายความว่าซื้อไม้เสร็จแลัวนะครับเรื่องมันยังไม่จบเท่านั้น... ขั้นตอนคือ ไปดูต้นไม้ของชาวบ้าน ต่อรองราคา นัดวันตัด เอาไม้สักเข้าโรงเลื่อยแปลรูป ขนไม้ลงเรือกลับไทย  ดูเหมือนไม่ยาก..แต่ไม่ง่ายครับ...ขอบคุณที่รับชมครับ

มีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ตัวผมเองที่ได้มีโอกาศไปทำงานที่ต่างประเทศครับ คือที่ สปป.ลาว บ้านพี่เมืองน้องของเราเอง ฟังดูดีนะไปต่างประเทศ... ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเดือน ส.ค.2551 ภารกิจครั้งนี้คือไปซื้อไม้สักที่ สปป.ลาว จุดหมายอยู่ที่ หลวงพระบาง เป็นครั้งแรกที่ได้ไปที่ หลวงพระบาง แต่ไม่ได้รู้สึกว่าตื่นเต้นอะไรมากนัก น่าจะเป็นเพราะว่าเป็นการมาทำงานเสียมากกว่ามั้งครับเลยไม่ค่อยตื่นเต้น..หลังจากใช้เวลา1ช.ม.เศษโดยประมาณ เครื่องบินก็ลงจอดที่สนามบินหลวงพระบาง จากนั้นก็ต่อด้วยรถตู้ไปที่พัก ที่ทางนายเขาติดต่อเอาไว้แล้ว หลังจากเก็บของที่บ้านพักเสร็จแล้ว  ก็ได้เวลาเริ่มงานกันเลยครับ เริ่มงานก็เจอรถติดหล่มเลยครับ..เล่นเอาเซ็งเลย ระหว่างรอการช่วยเหลือไม่มีอะไรดีไปกว่า...ถ่ายรูปหมู่ครับ (ไม่มีผมตามเคย) ฝนหยุดตก รถได้รับการช่วยเหลือแล้ว ก็เริ่มไปตามพื้นที่ ที่ติดต่อเอาใว้เพื่อดูต้นสัก หลังจากเสร็จงานในวันแรกแล้ว และกินอาหารเย็นเป็นที่เรียบร้อยกันแล้ว ก็เดินเล่นกันกลับมาที่บ้านพัก ไกล้ๆที่บ้านพักจะมีตลาด ที่เขาเรียกกันว่า ตลาดไนท์ คนที่ยืนให้ถ่ายรูปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เจ้านายทั้ง 2คน

งานถ่ายคอนโด Address Sathorn12 อยู่ที่ซอยสาทร12 3ห้องนอน 3ห้องน้ำ 1พื้นที่รวม (ห้องนั่งเล่น รับแขก ครัว) พื้นที่ด้านนอกนี่จัดงานเสี้ยงได้สบายเลย ห้องนอนที่3 (ห้องเล็ก) น่าจะเป็นห้องรับแขก มุมนี้ก็โอนะ.. ห้องนอนที่ 1 อาบนำ้โชว์กันเลยทีเดียว..^^"  ห้องนอนที่ 2 ให้รู้กันไปเลยว่าทำอะไรอยู่ในห้องน้ำ   สวนด้านบน